วันนี้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางรถพ่วงลากจูงทั้งหมด 13 คัน รถยนต์เก๋ง 2 คัน รถกระบะ 2 คัน โฉนดที่ดิน สมุดบัญชี อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน
การจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ได้จับกุมนายวัฒนา ศรีวิไล พร้อมของกลางยาบ้า 1,976,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล โดยอาศัยข้อมูลจาก Big Data ทำให้ทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้มีพฤติการณ์นำยาเสพติดจากภาคอีสานสู่ภาคใต้ โดยใช้รถบรรทุกลากจูงขนาดใหญ่ใช้ธุรกิจแฝงธุรกิจรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วไประหว่างประเทศและในประเทศบังหน้าพร้อมซุกซ่อนยาเสพติดไปด้วยโดยทำต่อเนื่องมาแล้วหลายครั้ง จากข้อมูลดังกล่าวสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนและสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 3 คนที่จังหวัดสกลนครและผู้ร่วมขบวนการรายสำคัญเป็นครูในจังหวัดสกลนครได้หลบหนีข้ามประเทศไปได้
25147
การจับกุมครั้งนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้ร่วมเครือข่ายที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านทางภาคอีสานสู่ภาคใต้ โดยมีการ โดยพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก จึงได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 30 เป้าหมาย ครอบคลุม 7 จังหวัดภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 15 พ.ย. – 15 ธ.ค. 2565 โดยได้ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องเป็นจำนวนมาก รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินตามมูลค่าที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดในครั้งนี้รวมผู้เกี่ยวข้องด้วย รวมมูลค่า 2,480,195,000 บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำกฎหมายใหม่มาใช้จนสามารถจับกุมเครือข่ายและขยายผลตัวการรายใหญ่ได้ ทำให้ ปปส.สามารถตรวจสอบ สืบสวนและวิเคราะห์ผู้ร่วมขบวนการได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้สามารถยึดทรัพย์ผู้ต้องหาและเครือข่ายขบวนการนี้ได้เพียง 200 ล้านบาทเศษ นายไกรสรกองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าจังหวัดขอนแก่นพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดรายใหญ่เพื่อให้ขบวนการค้ายาเสพติดหมดไปเพราะปัจจุบันผู้ป่วยโรคจิตส่วนใหญ่เกิดจากการเสพยาเสพติดจนทำให้ยาเสพติดกัดกินสมองหากปล่อยไว้นานจะทำให้ไม่สามารถรักษามาเป็นปกติได้จังหวัดขอนแก่นจึงพร้อมขจัดปัญหายาเสพติดนี้พร้อมให้นายอำเภอทั้ง 26 อำเภอทำการรีเอ็กซเรย์คัดแยกคนป่วย คนเสพ คนค้าออกมาและนำเข้าสู่กระบวนการในการรักษาการป้องกันและการปราบปราม
