ชัยภูมิ – หลังถูกจับนำตัวไปรักษาบำบัดได้ไม่นานก็ถูกปล่อยกลับบ้านมาก่อเหตุสร้างความวุ่นวายแตกตื่นไปทั่วหมู่บ้านยังไม่เลิก โชคยังดีครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่สายตรวจทางหลวงผ่านไปพบเหตุซึ่งหน้าพอดี เร่งลงไปช่วยบ้านดับไฟไหม้บ้านไม่ให้สร้างความเสียหายหนักไปทั้งหลังไว้ได้ทัน!
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.อดุล โสภาเพชร รอง สว.และ ด.ต.เพชรไพบูลย์ คุณชื่น ผบ.หมู่ รับแจ้งเกิดเหตุระทึกต่อหน้าระหว่างขับรถวิทยุสายตรวจตำรวจทางหลวงหมายเลข 6614 ออกตรวจตามเส้นทางทางหลวงหมายเลข ทล.2158 สายชัยภูมิ – หนองบัวแดง เมื่อไปถึงบริเวณบ้านโนนเหลี่ยม หมู่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มองเห็นเปลวไฟลุกไหม้ภายในบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่ติดกับถนนสาย 2158 ได้จอดรถเข้าตรวจสอบได้พบกับชาวบ้านที่กำลัง กุลีกุจอตกใจรีบร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ
ขณะที่ไฟกำลังไหม้ภายในบ้านดังกล่าว จึงจอดรถเร่งลงไปช่วยหาถังน้ำมาช่วยชาวบ้านดับไฟ พร้อมแจ้งหน่วยดับเพลิง อบต.นาฝาย เข้ามาช่วยดับไฟที่กำลังลุกลามอยู่พักใหญ่
ก่อนได้พบกับ นายวิชิต (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี อ้างตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน นั่งดูไฟไหม้อยู่ข้างบ้าน ยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้ามา 2 เม็ด และตนเองเป็นผู้เผาบ้าน และนำเสื้อผ้าของพี่ชายมาเผาพร้อมเผาบ้านไปด้วย เนื่องจากเคยมีปัญหากับพี่ชายเรื่องทรัพย์สินมรดก และเป็นผู้เผาบ้านเรือนตัวเองหลังเกิดเหตุครั้งนี้เอง อยู่ในหมู่บ้านโนนเหลี่ยม ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ซึ่งความจริงผู้ก่อเหตุรายนี้ ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว และไม่มีพี่ชายอยู่ด้วยแต่อย่างใด ซึ่งเกิดจากอาการหลอนจากการเสพยาบ้าจนเมาหนักมาติดต่อกันหลายปี ก่อนที่ จนท.ทางหลวงชัยภูมิ จะควบคุมตัวนายวิชิต ฯ ผู้ก่อเหตุเผาบ้านตนเองรายนี้ส่งให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อสอบสวนซึ่งยอมรับว่าเสพยาบ้า ก่อนจะมีอาการหลอนเผาบ้านตัวเอง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิตจากการติดยาบ้าหนักมาหลายปี ที่ รพ.ชัยภูมิ ต่อไป
ขณะที่ด้านชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า บ้านหลังเกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว ห้องโถงโล่ง ภายในห้องมีสภาพกองเสื้อผ้าขนาดใหญ่ถูกไฟไหม้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.นาฝาย จะเข้าดับเพลิงได้ก่อนที่จะลุกลามไหม้ไปหมดทั้งหลังทัน
ซึ่งเมื่อก่อนผู้ก่อเหตุ วัย 35 ปี ได้อาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คน ส่วนผู้เป็นพ่อเสียชีวิตแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ติดยาบ้ามานานกว่า 10 ปี ไม่ทำงานอะไรเอาแต่ขอเงินแม่ไปซื้อยาบ้ามาเสพ หากขอเงินแม่ไม่ได้จะทุบตีแม่และขู่จะทำร้ายแม่ตัวเองบ่อยครั้ง จนแม่กลัวได้หนีไปอาศัยบ้านญาติยังหมู่บ้านอื่นๆ
ซึ่งที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุมีเกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง จนชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวส่งไปรักษาอาการติดยาบ้ามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ๆ ละ 3-5 วันแล้วก็ถูกปล่อยตัวออกมาบ้าน
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยนำตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยาบ้าครั้งนี้จนหายขาดจากติดยาบ้าแล้ว จึงค่อยปล่อยตัวออกมา หากปล่อยกลับบ้านมาอยู่คนเดียวอีกก็ไม่รู้ว่าจะก่อความรุนแรงอะไรขึ้นอีกได้ พร้อมอยากให้รัฐบาล หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งกวาดล้างปราบปราม ยาบ้าอย่างจริงจังให้หมดไปจากพื้นที่โดยเร็วซักทีในขณะนี้ด้วย
