กรุงเทพฯ – มติเสียงข้างมาก 7 : 1 ศาลรัฐธรรมนูญให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลงเฉพาะตัว คดีตั้งนอมินีถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ นับแต่วันที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ วันที่ 3 มีนาคม 2566 ขณะที่นายศักดิ์สยาม น้อมรับคำวินิจฉัย ไม่กังวลกระทบการเมือง
วันที่ 17 มกราคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย คำร้องของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีการถือหุ้นและเจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชัน ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบกับมาตรา 187 หรือไม่
ก่อนพิจารณาคำร้อง ประธานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาป่วย จากนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติโดยครบองค์คณะ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 52 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า องค์คณะของศาลในการพิจารณาคดีและในการทำคำวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง ให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 3 มีนาคม 2566″
‘ศักดิ์สยาม’ น้อมรับคำวินิจฉัย ไม่กังวลกระทบการเมือง
นายศักดิ์สยาม เปิดใจหลังฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ว่า รอคัดคำวินิจฉัยของศาลฯฉบับเต็มก่อน ภายใน 15 วัน เพื่อดูว่าศาลจะให้ปฏิบัติอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไร นายศักดิ์สยามส่ายหน้า พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร เราเคารพคำวินิจฉัย
เมื่อถามว่า มีผลต่ออนาคตทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการถูกตัดสินว่า ตั้งนอมินีมาถือหุ้นแทน นายศักดิ์สยาม บอกว่า ขอคัดคำวินิจฉัยของศาลก่อน และไม่กังวล
ถามอีกว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำชับอะไรมาหรือไม่ นายศักดิ์สยาม บอกว่า ไม่มี แล้วรีบเดินทางกลับ
คดีนี้ ส.ส.จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของห้างหุ้นส่วน อีกทั้งยังรับงานจากกระทรวงคมนาคม
เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
เปิดชื่อตุลาการ ลงมติ 7 : 1
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีมติเสียงข้างมาก 7 คน ประกอบด้วย
1.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์
2.นายปัญญา อุดชาชน
3.นายจิรนิติ หะวานนท์
4.นายนภดล เทพพิทักษ์
5.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์
6.นายอุดม รัฐอมฤต
7.นายสุเมธ รอยกุลเจริญ
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 1 คน คือ
นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) 
