กรุงเทพฯ – คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อนุมัติ เพิ่มสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ในกลุ่มผู้ต้องขังทั่วประเทศ
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (เพิ่มเติม) สำหรับผู้ต้องขัง ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 10 รายการ เพื่อดูแลผู้ต้องขังให้เข้าถึงบริการตรวจสุขภาพที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเน้นให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
โดยบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่เพิ่มเติมสำหรับผู้ต้องขัง 10 รายการ จะครอบคลุมการดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศประมาณ 270,000 คน แบ่งเป็น รายการบริการใหม่ 1 รายการ คือ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ต้องขังจะได้รับบริการระหว่างต้องโทษ 1 ครั้ง และอีก 9 รายการ เป็นบริการเดิมโดยได้เพิ่มจำนวนครั้งของรับบริการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค ประกอบด้วย
1.บริการตรวจคัดกรองวัณโรคด้วยการเอกซเรย์ทรวงอก
2.บริการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิส
3.บริการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
4.บริการคัดกรองโรคไม่ติดต่อและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
5.บริการด้านส่งเสริมสุขภาพจิต เช่น การคัดกรองโรคซึมเศร้า บริการให้คำปรึกษา/เตรียมความพร้อมผู้ต้องขังป่วยจิตเวชก่อนปล่อย
6.บริการด้านทันตกรรมป้องกันและการเคลือบฟลูออไรด์
7.บริการคัดกรองโรคโควิด 19 และโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ
และบริการสำหรับกลุ่มผู้ต้องขังที่ปฏิบัติงานด้านสูทกรรม จัดบริการปีละ 1 ครั้ง ได้แก่
8.บริการคัดกรองโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
9.การตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น การคัดกรองและตรวจโรคผิวหนัง ตรวจวัดสายตาเบื้องต้น
“ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำถือเป็นประชากรกลุ่มเปราะบาง จากมติบอร์ด สปสช. ที่จะเริ่มในปีงบประมาณ 2567 จะทำให้ผู้ต้องขังได้รับบริการเพิ่มเติมตามความจำเป็น รวมถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ผู้ต้องขังในเรือนจำมีสุขภาพที่ดีขึ้น“ นายคารม กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: