ชัยภูมิ – หลังทางตำรวจออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหามาแล้ว 2 ครั้งยังไม่มา จนศาลอนุมัติออกหมายจับควบคุมตัวมาดำเนินคดี ยังไม่สำนึกไม่ยอมรับสารภาพเฉยอีก หลังชาวชัยภูมิ ทราบข่าวครั้งแรกว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วพร้อมให้อภัยไม่อยากให้ใครมาทำอะไรไม่ดีต่อศาลเจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิมาได้จนปัจจุบันอีก แต่ล่าสุดสาวรายนี้ยังไม่สำนึกว่ามาทำสิ่งไม่ดีภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ มาได้จนปัจจุบัน จนเกิดกระแสดราม่ากระฮึ่มทั่วเมืองรุมสาปแช่งประณามหนักซ้ำอีก พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมายให้ถึงที่สุด
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 ธ.ค.67 หลังเกิดเหตุสุดสะเทือนใจชาวชัยภูมิไปทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ เกิดตุเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา สุดสะเทือนใจชาวชัยภูมิ หลังจากทางคณะกรรมการผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อพญาแล หรือ พระยาภักดีชุมพล(แล) เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ มาได้จนปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่ ณ บริเวณหน้าหนองปลาเฒ่า ชุมชนหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เป็นสถานที่สิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองชัยภูมิ มายาวนาน และเพิ่งมีการสร้างศาลเจ้าพ่อพญาแลหลังใหม่ แทนหลังเก่าที่มีชำรุดทรุดโทรม เพื่ออันเชิญองค์รูปหล่อเหมือนองค์เจ้าพ่อพญาแลองค์เก่าแก่ตั้งแต่เจ้าพ่อพญาแลเสียชีวิตลงมาตั้งแต่ปี 2369 เพื่อทำพิธีแห่รอบเมืองและอันเชิญขึ้นไปประดิษฐาน ณ ศาลหลังใหม่ เมื่อระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย.67 เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการตั้งเมืองชัยภูมิ มานานในรอบกว่า 198 ปี
และเปิดให้ประชาชนทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้สักการะขอพร ณ ภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลหลังใหม่ มาได้เพียงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุมีภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลเจ้าพ่อพญาแล สามารถจับภาพหัวขโมยสองผัวเมียแสบ พากันแอบมาขโมยกระถางธูปที่เป็นทองเหลืองที่ตั้งไว้บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อพญาแล เพื่อตั้งไว้ให้ประชาชนมาจุดธูปกราบไหว้ ที่ทางขึ้นบันไดหน้าศาลฯ หายไปจำนวน 2 กระถาง มาต่อเนื่องถึง 2 ครั้ง เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 01.14 น.วันที่ 14 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ก่อนที่ทางคณะกรรมการผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อพญาแล ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมหัวขโมยแสบรายนี้แล้ว
ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพสาวที่เข้ามาขณะก่อนเหตุไว้ได้ชัดเจน และเดินทางขับขี่รถจักรยานยนต์(จยย.)มากลับสามีด้วยอีกคน เพื่อมาดูลาดลาว เดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าศาลฯอยู่นาน จนถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง เห็นว่าปลอดคนแล้ว ทางสาวหัวขโมยรายนี้ก็เดินไปหาถุงกระสอบปุ๋ยอยู่บริเวณหลังที่บูชาจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนของศาลเจ้าพ่อพญาแล ก่อนเดินมาที่บริเวณภายในศาลขโมยกระถางธูปทองเหลือง ภายในศาลไป 1 กระถาง และอีกจุดที่ตั้งกระถางธูปทองเหลืองขนาดใหญ่ รวมมูลค่านับหมื่นบาท ที่ตั้งอยู่ทางขึ้นหน้าศาลฯมีกระถางใบใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง และมีกระถางใบเล็กตั้งอยู่ด้านข้าง 2 ใบ ก่อนที่จะเลือกขโมยเอากระถางธูปทองเหลืองใบเล็กนำใส่กระสอบ เดินไปขึ้นรถ จยย.ที่สามีของสาวหัวขโมยรายนี้สตาร์ทรถ จยย.จอดรออยู่ก่อนพากันขับหลบหนีออกจากบริเวณศาลฯไป
จนล่าสุดทางด้าน นางสุดใจ งอชัยภูมิ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลศาลในวันเกิดเหตุ และเป็นคนมาพบว่ามีกระถางธูปทองเหลืองขนาดใหญ่ของศาลเจ้าพ่อพญาแล หายไปครั้งนี้เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา จึงรีบไปแจ้งคณะกรรมการผู้ดูแลศาลฯมาช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเข้าแจ้งความดังกล่าวเพื่อติดตามจับกุมสาวคนร้ายรายนี้แล้ว
ซึ่งล่าสุด ทางชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้แจ้งว่าได้สามารถสืบทราบรู้ตัวสาวสองสามีภรรยารายนี้ที่เข้ามาก่อเหตุขโมยกระถางธูปของศาลเจ้าพ่อพญาแลได้แล้ว
ที่แอบมาขโมยกระถางธูปทองเหลืองแท้ๆที่ตั้งอยู่หน้าศาลที่มีราคาแพง จึงพากันมาขโมยนำไปเลื่อยตัดกระถางเนื้อทองเหลืองผ่าเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อไม่ให้ร้านรับซื้อของเก่าสงสัย นำไปชั่งกิโลขายได้ราคาสูงกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งนำไปขายได้เงินไปหลายร้อยบาท ที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งใน ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ก่อนที่ทาง เจ้าหน้าที่จะแกะภาพจากกล้องวงจรปิดติดตามตัวออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา แต่สาวรายนี้ก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ จึงมีการขออนุมัติออกหมายศาลเพื่อเดินทางเข้าจับในครั้งนี้เพื่อควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในวันนี้
แต่ล่าสุดวันนี้หลังสาวผู้ก่อเหตุรายนี้ วัย 27 ปี ที่ถูกออกหมายจับในคดีที่เกิดขึ้น ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนก็ยังพลิกลิ้นไม่สำนึกต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับสารภาพผิดทั้งๆที่ทางเจ้าน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องร้านรับซื้อของเก่าที่สาวรายนี้มาขโมยกระถางธูปนำไปขายให้ สาวรายผู้ต้องหารายนี้ก็ยังไม่สำนึกกลับคำไม่ยอมรับสารภาพว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนลงมือก่อนเหตุและมีชาวชัยภูมิ ทราบข่าวตามมาอีกเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ หลังทราบว่าสาวรายนี้เป็นคนทำก็ไม่อยากให้ใครกระทำแบบนี้ภายในศาลเจ้าพ่อพญาแล หลังใหม่ที่เกิดขึ้นอีก
จนถึงวันนี้ชาวชัยภูมิที่ทราบข่าวจำนวนมากทั่วเมืองชัยภูมิ ก่อนที่เคยพร้อมให้อภัยว่าสาวรายนี้อาจจะมีความจำเป็นบางอย่างที่มาแอบขโมยของภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลไป ที่ต้องรับโทษตามกฏหมายไปแล้ว แต่ล่าสุดหลังทราบว่าสองสามีภรรยารายนี้ที่มาขโมยกระถางธูป ของศาลเจ้าพ่อพญาแลหลังใหม่ ไปยังมาปากแข็งไม่ยอมสำนึกผิด ไม่ยอมรับสารภาพความจริงที่เกิดขึ้นอีก ที่มาทำสิ่งไม่ดีที่ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง ภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลเจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ มาได้จนปัจจุบันของชาวชัยภูมิแล้ว จนล่าสุดจนขณะนี้ชาวชัยภูมิที่ทราบข่าวว่าสาวรายนี้ยังไม่สำนึกผิดต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ต่างพากันรุมประณามสาปแช่งสองผัวเมียหัวขโมยรายนี้กันไปทั่วเมือง และไม่ขอให้อภัยอีกแล้ว ขอให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้ถึงที่สุดด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: