ชัยภูมิ – ช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวและปีนี้ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นยาวนานกว่าทุกปีในรอบหลายปีที่ผ่านมา อาหารเมนูเด็ดของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านโนนหนองไฮ ที่ได้รวมกลุ่มอาชีพทำข้าวโป่งว่าว หรือข้าวเกรียบว่าวขาย ส่งผลทำให้มียอดผลิตออกขายแทบไม่ทันในแต่ละวัน สร้างรายได้งามกว่า 1,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียวในปีนี้
( 15 ม.ค.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ที่ถือว่ามีอากาศหนาวเย็นนานกว่าทุกปีในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ในพื้นที่ยังมีอุณหภูมิมีอากาศหนาวเย็นจัดเฉลี่ย 11-16 องศาเซลเซียส ที่อีกมุมที่มีชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพรวมกลุ่มทำข้าวโป่ง หรือข้าวเกรียบว่าว ของชาวบ้านโนนหนองไฮ หมู่ที่ 5 ตำบลโนนทอง อำเภอ เกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ที่เป็นเมนูเด็ดได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากในช่วงหน้าหนาวของทุกปี
ซึ่งชาวบ้านที่นี่ทำสืบสานกันมานาน ในการทำข้าวโป่งขาย มาตั้งแต่สมัย ร.3 ซึ่งเมื่อก่อนแต่ละครอบครัวจะต่างคนต่างทำ โดยเฉพาะหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวจากทุ่งนา เข้าสู่ฤดูหนาว จะทำข้าวโปร่งออกขาย ด้วยยุคแห่งการแข่งขันในสมัยใหม่สื่อออนไลน์เข้ามาสู่ครอบครัวและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้มีการรวมกลุ่มทำข้าวโป่ง หรือข้าวเกรียบว่าว ของครอบครัวที่ทำข้าวโป่งขายในพื้นที่ช่วยกันเกิดขึ้นมาจนปัจจุบัน
โดยมี นางวิมาณ อินกกผึ้ง อายุ 57 ปี ประธานกลุ่มอาชีพวิสาหกิจชุมชน(ข้าวโป่ง หรือข้าวเกรียบว่าว) บ้านโนนหนองไฮ หมู่ 5 ตำบลโนนทอง อำเภอ เกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ที่กำลังช่วยกันอย่างขะมักเขม้นช่วยสมาชิกกลุ่มนำข้าวโป่งสูตรโบราณ เพื่อส่งขายในช่วงฤดูหนาวในปี 2568 นี้ ที่มียอดส่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าทุกปี
ซึ่งมีส่วนประกอบ ด้วยการนำข้าวเหนียว 6 กิโลกรัม มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งเช้านำมานึ่งให้สุก เมื่อนึ่งข้าวเหนียวสุกแล้ว นำไปเทลงครกกระเดื่อง ชาวบ้านอีสานเรียกว่าครกมอง ซึ่งอดีตต้องใช้แรงงานคนผู้ชายเป็นแรงงานเหยียบกระเดื่องครกมอง ซึ่งกว่าจะได้แต่กว่าจะตำข้าวเหนียวนึ่งใหม่จนได้ที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป ตำข้าวเหนียวนึ่งจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ปัจจุบันก็มีการนำเครื่องใช้ที่มาช่วยทุ่นแรงได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาแรงงานหมุนยกปลายกระเดื่องครกมอง แล้วปล่อยปลายกระเดื่องที่มีสากครกมองลงไป โดยมีคนเป็นคนคุมเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น
และมีสมาชิกกลุ่มก็ช่วยกันคนจับปลายกระเดื่อง ช่วยตำสากลงในตัวครกมองนำหนักมากขึ้น ส่วนการพลิกหรือกลับด้านของข้าวเหนียว ต้องใช้คนเป็นคนกลับด้านให้ข้าวเหนียวในครกมองตำข้าวเหนียวให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ปัจจุบันเมื่อนำมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นแรงงานตำครกมองแทน ทุนเวลาขึ้นมากและผลิตได้เร็วมากขึ้น
โดยช่วงนี้เป็นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเข้าสู่ฤดูหนาวที่ถือว่าปีนี้มีอากาศหนาวเย็นยาวนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา สมาชิกกลุ่มทำข้าวโปร่งบ้านโนนหนองไฮ ทุกคนจะมาร่วมกันทำข้าวโป่งสูตรโบราณ ที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ มาตั้งแต่ ร.3 สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ที่นำพาลูกหลานทำข้าวโป่งกินเป็นขนมหวานคลายหนาวช่วงตื่นเช้าก่อไฟผิงคลายหนาว พร้อมกับปิ้งข้าวโป่งกินด้วย สืบทอดกันมาจนกระทั้งถึงปัจจุบันทำออกขาย ด้วยรสชาติที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่จะมีความหอมองงาดำงาขาวเป็นส่วนผสม รสชาติหอม มัน หวาน กรอบอร่อย เป็นที่ชื่นชอบคนในพื้นที่ จึงเป็นที่ต้องการของคนกิน หรือผู้บริโภคในช่วงหน้าหนาวปีนี้เป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์สูงกว่าทุกปีอีกด้วย
และ นางวิมาณ อินกกผึ้ง อายุ 57 ปี ประธานกลุ่มอาชีพวิสาหกิจชุมชน บ้านโนนหนองไฮ ยังได้บอกสูตรโบราณดั่งเดิมในการทำข้าวโปร่งองบ้านโนนหนองไฮ บอกว่าข้าวโป่ง หรือข้าวเกรียบว่าวที่นี่ สมาชิกกลุ่มจะร่วมกันทำที่เป็นแบบดั่งเดิมสูตรโบราณข้าวโป่งสูตรงาดำงาขาว โดยสมาชิกแต่ละคนจะนึ่งข้าวเหนียวคนละ 6 กิโลกรัม รวมกันได้ไม่น้อยกว่า 36 กิโลกรัมต่อวัน เพื่อนำมานวดแปลงทำเป็นข้าวโปร่ง หรือ ข้าวเกรียบว่าวได้แล้ว นำไปตำในครกมองอีกครั้งให้เข้ากับสวนผสมทั้งหมด ทั้งข้าวเหนียวใหม่ 6 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 3 กิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ งาดำ 1 ขีด งาขาว 1 ขีด มะพร้าวแก่ขูด 1 กิโลกรัม เมื่อได้แป้งข้าวเหนียวละเอียดนำไปผสมกับส่วนผสมตามสูตรแล้ว แต่ละคนจะนำไปแบ่งทำเป็นก้อนกลมเล็กๆ นำมาใช้ท่อนไม้กลมกดแป้งแผ่ให้เป็นแผ่นข้าวโป่งว่าว นำไปใส่ตะแกงไม้ไผ่ตากไว้ 2 แดดจนแห้ง ก่อนเก็บไว้รวมกันนำส่งขายให้แม่ค้านำไปปิ้งข้าวโป่งขายในตัว อ.เกษตรสมบูรณ์ และอำเภอใกล้เคียงของจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอื่นๆใกล้เคียงในทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทั่วภาคอีสาน
ซึ่งปีนี้ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นยาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ในส่วนการสร้างรายได้เสริมของสมาชิกกลุ่มทำข้าวโป่งว่าวของ ด้าน นางทองยุ้น ศรีทอง สมาชิกกลุ่ม บอกว่า ในแต่วันสมาชิกกลุ่มทำข้าวโป่ง 1 คน จะมีรายได้จากทำข้าวโป่งขายในแต่ละวันไม่น้อยกว่า 1,000 บาท ต่อคนต่อวันเลยทีเดียว ในช่วงหน้าหนาวปีนี้ ทำให้ช่วยเป็นรายได้เสริมเข้าครัวเรือนในช่วงหมดฤดูทำนาปลูกข้าวและเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดีในหน้าหนาวปีนี้ได้ดีอีกทางเพิ่มมากขึ้นด้วย
