ตรัง-หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1” เดินหน้าหาเสียงหลังลงสมัคร 23 ธ.ค.นี้ “สมชาย” ชี้ สานงานต่อก่องานใหม่ น้ำไหล ไฟสว่างถนนหนทางดี โว ส.อบจ.แห่สมัครล้นทั้ง 30เขต เปิดทางส่วนเกินลงอิสระแข่งกันเอง เผย 23เขตไร้คู่แข่งรวมทั้งนายกฯ แต่หากมีก็ยินดีต้อนรับ ออกตัวเป็นแค่หัวคะแนนช่วยพี่ชาย ชูจุดขายเป็นคนเรียบร้อย นิ่ง ปรองดอง ประสานได้ทุกฝ่าย เชื่อ “นครโมเดล” คนละบริบท ไม่กระทบตรัง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังถึงความเคลื่อนไหวในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(นายกอบจ.ตรัง) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(ส.อบจ.ตรัง) ซึ่งพร้อมกันทั่วประเทศ ว่า ตามที่ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในส่วนของทั้งนายกอบจ.ตรัง และส.อบจ.ทั้งประเทศไปเมื่อเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา สำหรับอบจ.ตรัง โดยนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ได้หมดวาระกลายเป็นอดีตนายกอบจ.ตรัง รวมทั้งบรรดาส.อบจ.ทั้ง 30 เขตด้วย อย่างไรก็ตาม รุ่งเช้าวันถัดไปในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายบุ่นเล้ง ได้เปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เขตเลือกตั้งที่ 3 ถนนตรัง-ปะเหลียน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เรียกบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.อบจ.ในทีมทั้งหมด ทั้ง 30 เขตเลือกตั้งมาส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งประวัติส่วนตัว ผลงาน ภาพถ่าย เพื่อซักซ้อมเตรียมความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งอบจ.ตรังที่จะเปิดรับสมัครในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ในส่วนความเคลื่อนไหวของจังหวัดตรัง ได้กำหนดสถานที่รับสมัครที่โรงยิม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง
ทั้งนี้ นายบุ่นเล้ง และคณะว่าที่ที่ปรึกษา-เลขาฯนายกฯ ได้ปิดห้องประชุมหารือร่วมกับว่าที่ผู้สมัครส.อบจ.ในทีม เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาร่วมกันถ่ายภาพ แจกเอกสารเตรียมตัวรับสมัคร ข้อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะแจกเสื้อทีม ทั้งเสื้อโปโลสีขาวคอปกสีฟ้าเข้ม และเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีฟ้าเข้ม สกรีนข้อความสีขาวบนแผ่นหลัง ความว่า “ทีมนายกฯบุ่นเล้ง บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัครส.อบจ. รวมถึงบรรดาหัวคะแนนมาร่วมเชียร์คับคั่ง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งป้ายหาเสียง ป้ายติดรถแห่ เพื่อเป็นต้นแบบไว้ให้บรรดาผู้สมัครจัดทำตามในแต่ละเขตให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยให้ผู้สมัครทุกคนชูสโลว์แกน “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1” ในการหาเสียงหลังจากลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว พร้อมเปิดตัวนโยบายสายงานต่อ ก่องานใหม่ และเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มรูปแบบหลังรับสมัคร
นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ อดีตนายกอบจ.ตรัง ในฐานะหัวหน้า “ทีมนายกบุ่นเล้ง” กล่าวว่า วันนี้เรามาเตรียมพร้อมเอกสารและเตรียมตัวผู้สมัครด้วย เพื่อดูว่ามีใครมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้าง ซึ่งเบื้องต้นเช็คดูแล้วว่ามีความพร้อมทุกเขต ทั้ง 30 เขต โดยเฉพาะส.อบจ.ยังอยู่ในสังกัดเดิมหมดทุกคน และมีความมั่นใจ 100% เพราะที่ผ่านมาทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และเป็นที่ประจักษ์ของพี่น้องประชาชนชาวตรังแล้วว่า ทำงานได้ดี และในห้วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เราได้มีการพัฒนาทุกด้าน เสียงตอบรับจากสังคมด้านนอกก็ชื่นชมว่าเรามาถูกทางแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงไป ก็คิดว่าคุ้มค่า จะเห็นได้ว่า ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องการศึกษา เรื่องกีฬา เรื่องถนนหนทาง หรือทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน ส.อบจ.ในพื้นที่ของเราก็ดูแลกันอย่างดี ทำจนกระทั่งประสบความสำเร็จ
“สำหรับแนวทางการหาเสียง “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1” ในครั้งนี้นั้น เป้าหมายของเราคือจะไม่แตกแยก อย่างที่ 4 ปีที่ผ่านมา เราไม่มีการแตกแยก เราจะมีความเห็นไปในทางเดียวกัน แต่ไม่ใช่หมายความว่าเผด็จการ แต่ทุกอย่างเห็นพ้องต้องกันว่าสิ่งนี้ที่เราทำทุกคนเห็นด้วยหรือไหม เมื่อเห็นด้วย เราก็เดินหน้า ในส่วนจะมีคู่แข่งหรือไม่นั้น เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่ทราบ ทั้งนี้ผมอยากฝากบอกกับชาวตรังว่า 4 ปีที่ทำงานมา พี่น้องประชาชนได้เห็นแล้วว่าเราทำด้วยความตั้งใจมุ่งมั่น ผมก็อยากจะฝากไว้อีกสักสมัยหนึ่ง และเรามีความพร้อม และทุกๆคนก็จะทำเต็มที่”นายบุ่นเล้งกล่าวยืนยัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสนามเลือกตั้งนายกอบจ.ตรัง และส.อบจ.ตรังในครั้งนี้ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” ภายใต้การนำของนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ อดีตนายกอบจ.ตรัง จัดทำเตรียมความพร้อมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยนายบุ่นเล้ง จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.ตรังต่ออีกสมัย ในส่วนของส.อบจ.ตรังทั้ง 30 เขตเลือกตั้ง มีผู้ลงสมัครทั้งสิ้นรวม 37 คน โดยทีมนายกบุ่นเล้งส่ง 30 คน โดยในส่วนที่เกิน 7 คน เนื้องจากบางเขต ยังตกลงกันไม่ได้เพราะมีผู้ประสงค์ลงสมัครมากกว่า 1 คน ที่ประชุมทีมจึงมีมติให้ลงสมัครแข่งกันเองได้ในนามผู้สมัครอิสระ โดยขณะนี้พบว่ามีถึง 23 เขตเลือกตั้งที่ไร้คู่แข่ง ส่วนอีก 7 เขตอาจมีคู่แข่งบ้างประปราย นอกจากนี้ในส่วนของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ตรัง จนถึงขณะนี้ยังปรากฎว่ามีบุคคลหรือทีมใดประกาศตัวลงท้าชิง มีแต่เพียงเฟสบุ๊คแฟนเพจของนายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตส.ส.ปชป.สายอำเภอห้วยยอด อดีตคู่แข่งจากทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง เมื่อการแข่งขันในปี 2563 ที่เริ่มเคลื่อนไหวออกมาโพสข้อความ อาทิ “นครศรี ฯ เปลี่ยนแล้ว ตรัง เรา อนาคต คือ …” , “มองไปข้างหน้า เพื่ออนาคต สร้างคุณภาพชีวิตชาวบ้าน หลุดพ้นธนกิจการเมือง” ทำให้คอการเมืองท้องถิ่นตรังต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างคึกคัก ว่าจะมีเซอร์ไพรส์คู่แข่งออกมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามจนถึงวันนี้(20ธ.ค.67) ก็ยังไม่ปรากฎการเปิดตัวของคู่แข่งออกมาแต่อย่างใด ขณะที่คอการเมืองจังหวัดตรัง ต่างเริ่มจับตาท่าทีของคู่แข่งเดิมคือ ตระกูลวงศ์หนองเตย ว่าจะมีความเคลื่อนไหวอะไรออกมาหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายบุ่นเล้งได้ใช้ชื่อ “ทีมกิจปวงชน” ซึ่งเป็นการรับไม้ต่อแนวทางการทำงานมาจากนายกิจ หลีกภัย พี่ชายนายชวน หลีกภัย อดีตนายกอบจ.ตรัง 4 สมัย ที่ได้ประกาศวางมือทางการเมืองและส่งไม้ต่อให้นายบุ่นเล้ง ทำทีมกิจปวงชนต่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ คณะทำงานเห็นว่าตลอด 4ปีที่ผ่านมา นายบุ่นเล้งได้สร้างผลงานที่เห็นชัดและได้มีแนวทางการทำงานเป็นของตัวเอง ในการพัฒนาเมืองตรัง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ และอื่นๆ สมาชิกในทีมทั้งหมดจึงเห็นพ้องต้องขอให้ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” ในการสื่อสารหาเสียงกับประชาชนแทน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนของการสานงานต่อก่องานใหม่ต่อไปอีกสมัย อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้ความร่วมมือกันทุกฝ่ายในการเดินหน้าจังหวัดตรัง
ด้านนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ ที่หลายฝ่ายจับตามองสนามภาคใต้ของพรรคปชป.ที่กำลังจะถูกรุมจากพรรคต่างๆ ว่า ในพื้นที่ภาคใต้เราก็มีโดยเฉพาะคนประชาธิปัตย์ บางจังหวัดเขาก็ลงในนามพรรค บางจังหวัดก็ไม่ได้ลงในนามพรรค เหมือนเช่นจังหวัดตรัง ในฐานะที่ตนเป็นเพียงหัวคะแนนคนหนึ่งเท่านั้น โดยทีมนายกบุ่นเล้ง ก็ไม่ได้ลงในนามพรรคปชป. แต่ลงในนามส่วนตัว ฉะนั้นแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน หลายจังหวัดก็ประสบความสำเร็จ หลายจังหวัดก็ไม่ประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ และขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน จะรับสมัครแล้ว ทางทีมของนายกบุ่นเล้งก็พร้อมมาก จากผู้สมัครทั้งหมด 30 คน มีผู้สมัครในทีมของนายกบุ่นเล้งถึง 37 คน มี 30 เขต เขตละ 1 คน แต่มีผู้สมัครล้น มีอยู่ประมาณ 23 เขตที่ไม่มีการแข่งขัน ส่วนอีก 7 เขตก็จะเป็นพวกเราแข่งกันเอง ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับการเมืองจังหวัดตรังค่อนข้างที่จะชัดเจน โดยสโลแกนจะมีความเป็นหนึ่ง ส่วนใหญ่มาจากนโยบายที่คนจำได้ที่เคยทำมา และประสบความสำเร็จ ก็คือการแก้ปัญหาโควิด อบจ.ตรังเป็นท้องถิ่นรายแรกๆที่กล้าจ่ายเงินเป็นร้อยล้านบาทเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนจังหวัดตรัง ในเรื่องการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนิกาในตอนนั้น เป็นองค์กรท้องถิ่นแรกๆที่กล้านำงบประมาณส่วนนี้ไปช่วยเหลือประชาชนในภาวะคนกำลังตกทุกข์ได้ยาก ก็เป็นนโยบายหนึ่ง
“ในส่วนของท้องถิ่น ผมมองว่าที่สำคัญท้องถิ่นต้องดำเนินนโยบาย 5 ประการคือ น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีกิน และสิ้นภัย นั่นคือความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน ไฟสว่างไปทั่วทุกแห่ง คนไปไหนมาไหนก็ปลอดภัย ทางดีก็ต้องทำเส้นทางให้ดี จังหวัดตรังเดี๋ยวนี้ติดอันดับในเรื่องของถนนหนทาง มีความเจริญมาก ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น 100 องค์กร หรืออบต.ทั้งหมด จะเร่งในการพัฒนาเรื่องถนนหนทาง ทำให้เส้นทางในพื้นที่จังหวัดตรังค่อนข้างที่จะติดอันดับท็อปเท็น นอกจากนี้อบจ.ตรังก็มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่เข้าสังกัดเยอะกำลังถ่ายโอนกันอยู่ ก็ได้ดูแลทุกข์สุขพี่น้องประชาชนในเรื่องสุขภาพ ก็น่าจะเป็นส่วนเสริมได้ดีด้วย”นายสมชายกล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า การรวมเป็นหนึ่งเดียวก็คือทุกนโยบาย พลังของส.อบจ.เองที่เข้ามา และองค์กรต่างๆเองไม่ว่าจะเป็นในส่วนอสม. พี่น้องประชาชน และผู้นำท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบต. เทศบาล ถ้าทุกฝ่ายรวมเป็นหนึ่งได้ จะทำให้ทุกนโยบายรวมเป็นหนึ่ง เพื่อสนองความต้องการโดยเฉพาะนโยบายการท่องเที่ยวของอบจ. ที่จะต้องจบที่ตรังทั้งหมด ไม่ว่าอาหารดี สถานที่ท่องเที่ยว หรือหาดทรายสวยงาม โดยเฉพาะเกาะกระดานก็เป็นอันดับ 1 ของโลก เหมือนภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวปีละแสนล้านบาท อบจ.ต้องช่วยตรงนี้ให้เยอะ ตรังเรายังได้ไม่มาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของอบจ.ตรังจะต้องช่วยกันอีกหลายฝ่าย และประเพณีลากพระ ซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งของชาวใต้ที่ดังไปทั่วโลก ประเพณีไหว้พระจันทร์ของเทศบาลตำบลทุ่งยาวซึ่งเหลือหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ยังอนุรักษ์ไว้ หลายอย่างเหล่านี้ช่วยเสริมการท่องเที่ยวและประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัดตรังให้เด่นยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องรวมกัน
“ผมเองเป็นหัวคะแนน ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไร รอบนี้ก็ช่วยพี่ชาย(นายบุ่นเล้ง)หาเสียง เดินบอกกล่าวช่วยกันเลือกพี่ชาย ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะมีคนสมัครแข่งหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่ทราบข่าว แต่จะมีหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า เราพร้อมหรือยังสำหรับสนามเลือกตั้งในเที่ยวนี้ ผมยืนยันว่าทีมของนายกบุ่นเล้ง พร้อมมาก ถ้าไม่มีคู่แข่งก็คิดว่าเป็นมติของชาวตรังที่อยากได้นายกบุ่นเล้งมาทำงานต่ออีก 4 ปี มาสานงานต่อแล้วก็ก่องานใหม่ ถือว่าเป็นที่ยอมรับของคนทั้งจังหวัด แต่ถ้ามีคู่แข่งเราก็ยินดีต้อนรับ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการแข่งขัน และประชาชนมีทางเลือก ผมยินดีทั้งสองอย่าง อยากบอกกับประชาชนชาวตรังว่า นายกบุ่นเล้งเป็นคนเรียบร้อย เป็นคนนิ่ง ปรองดอง ประสานงานทางฝ่ายจังหวัดได้ หลายฝ่ายก็ชื่นชอบ เพราะเป็นคนที่ทุกอย่างเคลียร์หมด ซึ่งแตกต่างจากหลายคน เป็นข้อดีของเขา คิดว่าประสานงานได้ทุกองค์กรในพื้นที่จังหวัดตรัง ในฐานะที่เป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลนครตรัง เทศบาลเมือง หรืออบต.ต่างๆ ประสานงานดีมาก เข้ากันได้ทุกฝ่าย”นายสมชายกล่าว
กรณีการเลือกตั้งอบจ.ตรัง จะได้รับอิทธิพลจากกรณีนครโมเดล หรือไม่นั้น นายสมชายกล่าวว่า ตนมองนครโมเดลว่าเป็นเพียงกระแสชั่วคราว คนประชาธิปัตย์ยังไงก็เป็นคนประชาธิปัตย์อยู่ แต่บางทีกระแสโลกโซเชียลพากันไป แต่คิดว่าที่ตรังเราคงไม่มีอย่างนั้น จะให้ตรังเหมือนนครศรีธรรมราช เราคงไม่เหมือน เพราะว่าคุณลักษณะผู้สมัคร 2 ฝ่ายก็ไม่เหมือนกันแล้ว และของเราก็อยู่จนครบวาระ เราไม่มีประเด็นว่าลาออกก่อนเพื่อจะชิงความได้เปรียบในทางการเมือง เราไม่มี เราถือว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามระบบ ก็อยู่จนครบวาระเมื่อวาน(19ธ.ค.67) และไปสู่การสมัครในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ในส่วนของชื่อของทีมที่เปลี่ยนไปจาก “ทีมกิจปวงชน” มาเป็น “ทีมนายกบุ่นเล้ง” นั้น เป็นมติของที่ประชุมผู้สมัคร โดยมีหลายความคิดเห็นที่เสนอ หลายคนอยากได้ใจชื่อเดิมคือทีมกิจปวงชน หลายคนก็ให้ใช้ชื่อ “ทีมโล่ปวงชน” แต่สุดท้ายมาออกชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” ซึ่งยืนยันว่าตนไม่มีส่วนกำหนด นายกบุ่นเล้งก็ไม่มีส่วนกำหนด เป็นเรื่องของสมาชิกที่ลงมติกัน และได้เรียนนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกอบจ.ตรังรับทราบแล้ว ท่านก็ไม่ได้คัดค้านอะไร และเห็นด้วย เพราะถือว่าเป็นมติในที่ประชุม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: