ตามที่รัฐผลักดันมาตรการ Easy E-Receipt เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของประชาชนโดยการซื้อสินค้า โดยจูงใจให้สามารถนำใบเสร็จไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 ทั้งสินค้าบริการที่จำเป็นทั่วไป และร้านจำหน่ายหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ รวมทั้ง e-book แต่ทั้งนี้ จะต้องเป็นสินค้าและบริการที่ซื้อจากผู้ประกอบการจด VAT และต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นจึงจะนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยมีกำหนดเริ่มวันนี้ ที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 หรือมีเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตร้านค้าท้องถิ่นต่างๆที่ให้บริการสินค้าที่กำหนด กลับพบว่าแม้โครงการจะเริ่มในวันนี้ (16 ม.ค.) แต่ทุกแห่งไม่มีป้ายสัญลักษณ์ของโครงการ Easy E-Receipt ติดตั้งไว้แต่อย่างใด เนื่องจากไม่เข้าร่วมโครงการ
นายศุรศักดิ์ เตชะภานุวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปห้างลักกี้ มาร์เก็ต ย่านตาขาว บอกว่า จริงๆแล้วมาตรการนี้เป็นมาตรการที่ดี เพราะว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดภาษีตรงนี้ แต่มาตรการนี้ตอบโจทย์ ห้างร้านขนาดใหญ่มากกว่า เพราะว่าเขามีระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว แต่ร้านขนาดกลางและขนาดเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามต่างอำเภอ ไม่มีระบบนี้ แต่ในอนาคตอาจมีพัฒนาต่อไป จึงมองว่าร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็กไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้แต่ไปตกในร้านค้าโมเดิร์นเทรดส่วนใหญ่ ส่วนของห้างตนเป็นใบกำกับภาษีอย่างย่อ แต่ว่าถ้าลูกค้าอยากได้ เพื่อนำไปยื่นประกอบการเสียภาษี ก็จะออกแบบเต็มให้แต่เป็นแบบกระดาษธรรมดา และรัฐก็ควรจะเปิดกว้างให้ร้านค้าท้องถิ่นร่วมโครงการได้ด้วยใบกำกับภาษีธรรมดา ทั้งนี้ หากต้องการให้ร้านค้าปลีกย่อยเข้าสู่ระบบนี้รัฐบาลจะต้องให้ความรู้ว่าจะต้องทำในลักษณะไหนได้บ้าง และจะต้องลงทุนเพิ่มอะไรบ้าง ดังนั้น มาตรการนี้ดีเพราะช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ไปตอบโจทย์ร้านขนาดใหญ่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: