ปทุมธานี ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 2 เขต 5 ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ ลุยเคาะประตูบ้านโค้งสุดท้าย มั่นใจประชาชนเทคะแนนให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรชาติ ชายวงศ์(โอม) ผู้สมัคร สส.เบอร์ 2 เขต5 จังหวัดปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานได้เดินเคาะประตูหน้าบ้านตามชุมชนต่างทุกหลังคาเรือนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 5 พร้อมกับแจกแผนแนะนำตัวผู้สมัครเพื่อออนขอคะแนนจากประชาชนในช่วงโค้งสุดท้าย
โดยนายจิรชาติ ชายวงศ์ เปิดเผยว่าการเปิดเผยว่าขณะนี้ตนเองพร้อมทีมงานได้ใช้การเดินแนะนำตัวเพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุดพร้อมกับได้ชี้แจงนโยบายของพรรคให้กับประชาชนได้เข้าใจ โดยเราชูประเด็นไม่ขัดแย้ง บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย อีกทั้งนโยบายของพรรคพลังประชารัฐนั้นเดินหน้าได้เลยในเรื่องสวัสดิการของรัฐ เนื่องจากเป็นสวัสดิการที่วิ่งจากรัฐมาเข้ากระเป๋าประชาชนโดยตรงโดยที่ไม่ผ่านมือใคร และการที่ประชาชนโดยตรงนั้นมันยังมีข้อกำหนดไว้ว่าที่เขาส่งไปให้เดือนละ200-300 เอาไว้ใช้เพื่อยกระดับชีวิตเพราะเขากำหนดไว้ว่าคุณไม่สามารถเอาไปซื้อเหล้าซื้อบุหรี่ได้คุณจะต้องไปซื้อข้าวสารสิ่งของเครื่องใชจำเป็นที่ใช้ในครัวเรือนซึ่งผมคิดว่าคนที่อ่อนแรงกว่าเรานั้นสามารถเอาประใช้ประโยชน์ได้เยอะ
อีกทั้งบัตรประชารัฐนั้น ยังได้มีการ เพิ่มคน เพิ่มสิน เพิ่มทักษะ เพิ่มโอกาส เช่น การเพิ่มสิทธิ์ผู้ที่มีรายได้น้อยที่ยังไม่ได้รับ เพิ่มสิทธิ์ผู้สูงอายุผู้พิการผู้ป่วยติดเตียงผู้ใช้แรงงาน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบและเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพหางานให้ทำ ซึ่งยังร่วมถึง บัตรประชารัฐที่เริ่มในครรภ์มารดาดูแลตั้งแต่ครรภ์ 3,000 บาท/เดือน ค่าทำคลอด 10,000 บาท ค่าเลี้ยงดูเด็ก 0-6 ปี 2,000 บาท/เดือน เพิ่มเวลาดูแลบุตรผู้ปกครองสามารถลาป่วยในสิทธิ์ของตนเองโดยใช้ใบรับรองแพทย์ของลูกที่ป่วยแทนได้ พ่อลาไปช่วยเลี้ยงลูกก่อนและหลังจากที่ภรรยาคลอดบุตรไม่เกิน 30 วันโดยให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้าง ทั้งนี้บัตรประชารัฐอย่างดูแลครอบครัว รวมไปถึงสังคมผู้สูงวัยโดยเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาท/เดือนทุกช่วงอายุ สร้างสังคมกตัญญูโดยให้ลางานไปดูแลพ่อแม่ไม่เกิน 10 วัน/ปี เพิ่มสิทธิรถหย่อนภาษีเงินได้ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ สร้างงาน 1,000,000 ตำแหน่งให้ผู้สูงอายุ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ
นายจิรชาติ กล่าวต่อว่า สังคมในชุมชนลาดสวาย นั้นส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรร เป็นชุมชนใหม่ มีประชากรหลายหมื่นคน จากการที่ตนเองทำงานในพื้นที่ในฐานะจิตอาสามายาวนาน ทำให้เป็นที่รู้จักสำหรับคนชุมชนแห่งนี้ โดยเฉพาะบ้านมีรั้ว ในหมู่บ้านต่างๆที่หลายๆคน หลายๆพรรคเข้าไม่ถึงเพราะเขาไปทำงาน ไม่อยู่บ้านอันเป็นวิถีปกติของเขา แต่ตนเองนั้นผูกพันธ์กับคนเหล่านี้ผ่านทางการทำงานจิตอาสา รวมทั้งเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันในสังคมออนไลน์ บางคนไม่เคยเจอหน้ากันแต่รู้จักกันอย่างดีในออนไลน์ เขามีปัญหา ก็จะบอกกับเรา ถ้าช่วยเหลือกันได้เราก็ทำกันด้วยความเต็มใจ ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งที่เราทำงานมานาน
