ในวันนี้( 18 ต.ค. 61) ได้มีชาวนาใน ต.ทุ่งหลวง และตำบลอ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี รวม 7 ราย ซึ่งนำโดยนายศักดิ์ สุโขประสพชัย ตัวแทนชาวนาได้นำตั๋วบิลข้าวเปลือกที่ท่าข้าวแห่งหนึ่งใน อ.เมือง ออกให้เป็นหลักฐานไปแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.หญิงเกวลิน นิ่มนวล ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี กรณีท่าข้าวดังกล่าว รับซื้อข้าวเปลือกที่เกษตรกรชาวนานำไปขายให้ แต่ยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าข้าวให้ประมาณเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว มีการนัดหมายเจรจาเรื่องเงินกันหลายครั้งกับเจ้าของท่าข้าว แต่พอถึงกำหนดนัดจ่ายเงินก็ผิดนัดเรื่อยมา ล่าสุดทางท่าข้าวให้เป็นเช็คเงินสดมา แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารก็ไม่สามารถเบิกเงินได้อีก
ด้านนางวันใหม่ เสียงเพราะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 5 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนปลูกข้าวเปลือกพันธุ์หอมปทุมได้ข้าวไปขายประมาณ 9 ตันๆละ 7,500 บาท รวมเป็นเงิน 67,500 บาท ซึ่งเป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวก่อนที่จะถึงฤดูกาล และยังไม่มีท่าข้าวที่ใดเปิดรับซื้อมีแต่ท่าข้าวแห่งนี้ ตนกับชาวนาอีกหลายคนก็นำไปขายให้ ที่ผ่านมาก็เคยนำไปขายให้ และได้เงินมาตลอด แต่ครั้งนี้ตนนำข้าวไปขายให้ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา และทางท่าข้าวก็นัดให้ไปรับเงินในวันถัดมา ซึ่งตนก็ไปรับแต่ทางท่าข้าวก็ผลัดผ่อนเรื่อยมา มีการนัดเจรจาพูดคุยกันแล้วหลายครั้งก็ยังไม่ได้เงินอีกจนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางท่าข้าวให้เป็นเช็คเงินสดและให้นำไปขึ้นเงินที่ธนาคารก็ถูกปฎิเสธจากธนาคารเพราะมีเงินในบัญชีไม่พอ ซึ่งไม่มีแค่เฉพาะชาวนาในพื้นที่นี้แต่ยังมีเพื่อนเกษตรกรอีกหลายคนที่มีปัญหาเดือดร้อนเหมือนกันเพราะในวันที่ไปทวงถามเงินค่าข้าวก็มีชาวนาอีกหลายคนมาทวงถามเหมือนกัน เพราะอยากใช้เงินไปจ่ายให้ค่ารถเกี่ยว ค่ารถเข็น ค่ายา ค่าปุ๋ย และอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง ส่วนราคาข้าวที่ชาวนาปลูกจะมีราคาขายไม่เท่ากัน เช่น ข้าวพันธุ์หอมปทุมที่ปลูกจะมีราคาประมาณตันละ 7,500 บาท แพงกว่าข้าวพันธุ์อื่นที่จะขายตันละ 6,800 บาท จึงอยากให้ทางท่าข้าวเอาเงินมาจ่ายให้ชาวนาโดยด่วนด้วยเพราะทุกคนกำลังเดือดร้อนกันมาก
ด้านนายศักดิ์ สุโขประสพชัย ตัวแทนชาวนา ต.ทุ่งหลวง กล่าวว่า ตัวเองได้ปลูกข้าวนาปี แต่ได้ทำก่อนฤดูกาล โดยปลูกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เกี่ยวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม เป็นข้าวพันธุ์ กข 49 นำมาขายให้แก่ท่าข้าวจำนวน 11 ตัน ราคาตันละ 6,800 บาท ทางท่าข้าวออกตั๋วบิลมาเป็น เงิน 74,800 บาท ที่นำมาขายให้ที่นี่เพราะได้รับคำแนะนำมาจากนางสาววันใหม่ เสียงเพราะ เนื่องจากเป็นคนไปขายข้าวให้แก่ท่าข้าวนี้เป็นประจำเพราะรับซื้อดี โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้วก็เคยนำข้าวประมาณ 4 ตัน ของพี่สาวไปขายมาแล้ว ท่าข้าวนัดจ่ายเงินใช้เวลาเพียง 2 วัน ก็จ่ายเงินให้แล้ว แต่มาครั้งนี้ได้ผ่านมานานเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่ยอมจ่าย เพื่อน ๆพยายามติดตามเรื่องเงินทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการนัดหมายบอกจะให้เป็นเงินสดพอไปรอก็ผิดนัด พอท่าข้าวให้เช็คมาเป็นเงินรวมกันประมาณ 3 แสนบาท นำไปขึ้นเงินที่ธนาคารเ เช็คกลับเด้งอีก จนที่สุดแล้วจึงได้บอกไปว่าถ้าไม่เอาเงินมาให้วันนี้ ก็จะรวมตัวกันไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะว่าได้ให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเพื่อนชาวนาอีกหลายคนที่นำข้าวไปขายให้ท่าข้าวแห่งนี้โดนเรื่องเงินเหมือนกับตัวเองและเพื่อน ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้ติดต่อไปยังเจ้าของท่าข้าวแห่งนี้ ให้มาเจรจาพูดคุยกัน โดยนัดตกลงในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ แต่จนกระทั่ง 16.00 น. ทางเจ้าของท่าข้าวก็ไม่มาตามที่นัดและไม่ยอมรับโทรศัพท์ด้วย ชาวนาจึงได้ร่วมกันแจ้งความเพื่อเอาผิดกับทางเจ้าของท่าข้าวดังกล่าว
