เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าว Utusan TV ประเทศมาเลเซีย ได้ทํารายงานพิเศษเกี่ยวกับประชากรมุสลิมในภาคใต้ของ ประเทศไทยที่เฉลิมฉลองเดือนรอมฎอน นอกจากนี้ยังมีการแสดงมุมมองของนักวิชาการด้าน ศาสนา และผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่ สงบสุข
พวกเขารําคาญ และเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งที่คงไม่หยุดยั้งในพื้นที่นั้น พวกเขาต้องการอยู่อย่างสงบสุข และปลอดภัย โดยไม่ถูกปิดบังหรือหลอกหลอนจากการโจมตีหรือการ ปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกําลังความมั่นคงของไทย
ในบรรยากาศของรายอ Aidilftri ตอนนี้กําลังเยือนมาถึง เป็นที่แน่นอนว่าชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ต่างก็ได้อธิษฐานขอให้พวกเขาสามารถเฉลิมฉลองวันอัน รุ่งโรจน์ด้วยความสุขปราศจากความวิตกกังวลใด ๆ หลังจากในเดือนรอมฎอนได้เกิดหลาย เหตุการณ์จากการโจมตีของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ทําให้เดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ปนเปื้อน ด้วยข่าวที่เลวร้าย พวกเขาหวังว่า วันที่ 1 Syawal จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก
คําถามคือความฝันนั้นจะสําเร็จหรือไม่? ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่สําคัญคือความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่าย ไม่เพียงแต่ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนหรือฝ่ายความมั่งคงของไทย
ทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการกระทําที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่บ้านสาวอ ตําบลสาวอ อําเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN) พยายามยั่วยุโดยการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าทหารพรานยึด “ป้าย” ต้อนรับวันฮารีรายอ Selamat Hari Raya ของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว
การกระทําดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อจุดประกายความโกรธแค้นของประชากรมุสลิมและหลังจากนั้น BRN จะใช้เป็น “ข้ออ้างอันลํา้ ค่า” สําหรับการปฏิบัติภาระกิจของพวกเขา รวมถึงการซุ่มโจมตกี่อการร้าย
และในวันเดียวกันในช่วงดึกก็มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทหารพราน2คนเสียชีวิตและอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บหลังจากถูกซุ่มโจมตีในเขตพื้นที่อําเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
ไม่ว่าทั้งสองเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ตาม แต่แท้จริงแล้วเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ ควรเกิดขึ้น หากหนึ่งในอําเภอที่ร้อนแรงที่สุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย คืออําเภอ เจาะไอร้อง สามารถสงบสุขได้ตลอดเดือนรอมฎอนทําไมพื้นที่อื่นทำไม่ได้
มีการเล่ากันว่าสถานการณ์ของอําเภอเจาะไอร้องสงบ “ผลของข้อตกลงร่วมมือ” ? ข้อตกลงร่วมมืออะไรและใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้เขียนไม่แน่ใจ แต่พื้นที่นั้นเงียบสงบโดยไม่มี เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและเจ้าหน้าที่รัฐไทย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับอําเภอนั้น อาจเป็นตัวอย่างในความพยายามที่จะทําให้เกิดสงบสุข และความปลอดภัยอย่างครอบคลุมที่สามารถประสบความสําเร็จได้
แต่ตามที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ท้ังหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายให้ความสําคัญกับความซื่อสัตย์และความจริงใจเป็นที่ยึดมั่น
แน่นอนว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งได้อีกหากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เกี่ยวข้องกับ การเจรจาสันติภาพมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงและมีอํานาจเต็มที่ในการควบคุมทุกสาขาภายใน กลุ่มนั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนรอมฎอนยังเหลือไม่ถึง 72 ชั่วโมง หวังว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย จะไม่สั่นคลอนหรือหยุดชะงักจากการคุกคามของกลุ่ม แบ่งแยกดินแดนหรือการกระทําจากเจ้าหน้าที่รัฐการที่ถูกมองว่าเป็นการยั่วยุ
ขอให้รุ่งอรุณของวันที่ 1 Syawal ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยได้รับ การเฉลิมฉลองโดยประชากรมุสลิมเต็มไปด้วยความยินดีมากกว่าความหวาดกลัว..
