นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี ให้ฝ่ายกฏหมายแจ้งความกรณีมีผู้อ้างตัวเป็นตำรวจภาค 7 ข่มขู่ลูกน้องเก่าสมัยทำงานเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้การปรักปรำเป็นคนสั่งฆ่านายบิลลี่ พอละจี ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและกลัวถูกปรักปรำในคดีดังกล่าว จึงขอแจ้งความไว้ดังกล่าว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ก.ย. นายวินัย บัวศรี หัวหน้ากลุ่มงานกฏหมาย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการมอบอำนาจจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี เข้าพบ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อขอแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
โดยมีการนำแผ่นซีดีบันทึกเสียงการสนทนาความยาวประมาณ 11.30 นาที ซึ่งอ้างว่าเป็นเสียงการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี กับผู้ที่อ้างตัวเป็นพนักงานตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 7
โดยผู้ที่อ้างตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขอให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานคนดังกล่าว ให้การปรักปรำนายชัยวัฒน์ ขณะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นตัวการฆ่านายบิลลี่ หรือพอละจี รักจงเจริญ หากให้การดังกล่าว สัญญาว่าจะกันตัวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไว้เป็นพยาน แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามนั้น ก็จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าอุทยานคนดังกล่าวด้วย
นายชัยวัฒน์เห็นว่า กรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็นการให้ความคุ้มครองพยานบุคคล จึงได้มอบหมายให้นายวินัย นำเรื่องมาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ใช้เป็นหลักฐานประกอบการรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในการขอความคุ้มครองพยานต่อไปในวันนี้
ด้านนายวินัย หัวหน้ากลุ่มงานกฏหมาย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า การเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานวันนี้ เพื่อรายงานให้อธิบดีต้นสังกัดทราบ แล้วขอความคุ้มครองให้กับเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวถึง หากกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการขอตัวเจ้าหน้าที่ไปให้ปากคำ ต้องมีการขอผ่านทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เพราะการคุกคามและให้สัญญากับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว จะมีผลให้นายชัยวัฒน์ ได้รับความเดือดร้อน หากเจ้าหน้าที่ทำตามด้วยการปรักปรำดังกล่าว จึงมาขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น โดยไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ใด เพราะผู้แจ้งต้องการเพียงลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ใดในขณะนี้
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: