ด่วน!! ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับ ป.วิอาญา 2 มือวางระเบิด ครู ตชด.สองพ่อลูกแล้ว
ศาล จ.นราธิวาส อนุมัติออกหมายจับ ป.วิอาญา 2 มือวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด.โรงเรียนบ้านตืองอในพระราชูถัมภ์ แล้ว อายุความ 20 ปี จากหลักฐานมัดตัว-หลังแกนนำ BRN.ออกโรงรับ ทำเอง ถึงเป็นมุสลิมแต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไทย
จากเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าสลดให้กับคนไทยทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 ที่ผ่านมานั้น นั่นก็คือ กลุ่มคนร้ายได้ลอบจุดชนวนระเบิดถังแก๊สปิกนิกก่อนจ่อยิงหัวซ้ำ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 56 ปี ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านตืองอ ช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35 ปี ครูสอนวิชาเกษตร โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็น 2 พ่อลูก สังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 เสียชีวิตคาที่ โดยคนร้ายหยิบอาวุธปืนของทั้งคู่ไป 2 กระบอก เหตุเกิดบนถนนสายศรีสาคร – ลูโบ๊ะยือริง บริเวณบ้านไอร์กือแด ม.4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส 
จนเกิดคำถามที่คาใจสังคมว่า ทำไมมุสลิมด้วยกัน มันยังฆ่าได้ ทั้งๆที่ครู 2 พ่อลูกเข้าไปอบรมสั่งสอนลูกหลานในดงมุสลิมเป็นเวลานานหลายปี ยอมละทิ้งความสะดวกสบายไปอยู่สังคมชนบท หนำซ้ำยังเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม,,!!ต่อมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกมากล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวและญาติมิตรของครู ตชด. พ่อ-ลูกผู้เสียชีวิต และขอประณามการกระทำอันโหดร้ายของผู้ก่อเหตุที่มุ่งหมายเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต เหตุการณ์นี้สร้างความสูญเสีย “เรือจ้าง” 3 รางวัลพระราชทาน ที่สำคัญ ทำให้นักเรียนโรงเรียน ตชด.”สมเด็จย่า” แห่งนี้ ได้รับผลกระทบทางการศึกษาอย่างเต็มๆ โดย กสม.เรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว 
ขณะเดียวกัน BRN หรือ BARISAN REVOLUSI NASIONAL ได้โพสต์ทางเฟสบุ๊ค ใจความว่า ด้วยพระนามแห่งอัลเลาะห์ผู้ส่งปรีชาและเมตตายิ่ง ขอกล่าวคำว่า แท้จริงพวกราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะห์ และแท้จริงพวกราจะกลับไปยังพระองค์ แต่พลรบสยามไทยที่เสียชีวิตจากการปกป้องผืนแผ่นดินที่ปล้นชิงมา แม้ด้วยภาระหน้าที่ของท่านถูกมอบหมายให้เป็นครู แต่ด้วยภาระหน้าที่หลักของท่านคือ “พลรบ” ท่านจึงมิอาจหลีกหนีจากการสู่รบได้ การเสียชีวิตของท่านถือเป็นการพลีชีพแต่สยามไทยอย่างแน่วแน่ แม้จะเสียดายผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ แต่ในสถานะนักรบจึงมิอาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้และทำลายได้…………………..
!!!!! ทางด้าน “พลโท ไพศาล หนูสังข์” มทภ.4/ ผอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยว่า “ในห้วงที่ผ่านมา ฝ่ายตรงข้ามมักจะก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ห้วงลาพักหรือขณะปฏิบัติภารกิจส่วนตัว เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จึงเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดเตรียม “แผนพิทักษ์กำลังพล” ทั้งกำลังพลในโครงสร้างของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างแต่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยใช้กำลังรักษาความปลอดภัยบุคคล แบ่งเป็น 2 ขั้น คือ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และระหว่างลาพัก ส่วนการ รปภ.จะแบ่งเป็น 3 มาตรการ คือ รปภ.ด้วยตัวเอง, โดยชุมชน และโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งทุกๆ พื้นที่จะใช้มาตรการเดียวกัน 
ล่าสุด ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับ ป.วิอาญา มือวางระเบิด ครู ตชด.สองพ่อลูกแล้ว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 คือ 1.นาย อับดุลเลาะ บูละ ภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 156/24 ต./อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และ 2. นาย อับดุลเลาะ สาเมาะ อยู่บ้านเลขที่ 135/5 หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ซึ่งทั้ง 2 ราย ต้องหาว่ากระทำความผิด ฐานร่วมกันก่อการร้ายฯ, สะสมกำลังพลหรืออาวุธฯ, เป็นอั้งยี่ซ่องโจร, ฆ่าเจ้าพนักงาน โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำให้เสียทรัพย์, ทำ มี ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิด, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น, พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, กระทำด้วยประการใดๆบนทางหลวงอันอาจก่อให้เกิดอันตรายและน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร……………..
กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า นาย อับดุลเลาะ บูละ และ นาย อับดุลเลาะ สาเมาะ
1.ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี
2.ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่า อาจจะหลบหนี, จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ทั้งนี้ ภายในอายุความ 20 ปี นับตั้งแต่ 14 ม.ค.68 ถึง 14 ม.ค.88
