“ครูแก้ว” แจงประเด็นร้อนปมกัญชาเสรี ไม่เกี่ยวต่อรองการเมือง เชื่อ พรบ.ผ่านสภาฉลุย เดินหน้าหนุนปลูกกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีมีประเด็นร้อนเกี่ยวกับตนเรื่องประกาศถอนตัวไม่ขอร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคภูมิใจไทย หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ผ่าน พ.ร.บ.กัญชา ในการเสวนาเรื่องการขับเคลื่อนต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาในประเทศไทย ร่วมกับหน่วยการเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐเอกชน และกลุ่มตัวแทนวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ตลาดพูนสุข อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่สนใจในการปลูกกัญชาทางเลือกใหม่ สร้างเศรษฐกิจ ควบคู่กับการสนับสนุนการนำกัญชาใช้ในทางการแพทย์ โดยภายในงานมีการเสวนา แลกเปลี่ยน สร้างความรู้ความเข้าใจ ทั้งระเบียบข้อกฎหมาย รวมไปถึงแนวทางการส่งเสริมการปลูก โดยครูแก้วกล่าวว่าในการเสวนาช่วงหนึ่ง ตนได้พูดถึงเรื่องการถอนตัวออกจากรัฐบาล หากรัฐบาลไม่สนับสนุนการปลดล็อกกัญชา ยืนยันว่าเป็นการพูดย้อนกลับไปถึงเรื่องเดิมก่อนหน้านี้ ที่ยังไม่มีการปลดล็อก จนกลายเป็นประเด็นข่าวร้อนแรงตามหน้าสื่อ ตนขอทำความเข้าใจว่า เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนของสื่อเอง ที่กล่าวไปนั้นตนหมายถึงประเด็นแต่เริ่มต้น โดยย้อนไปที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึงตนมีความตั้งใจผลักดันให้รัฐบาลปลดล็อกกัญชา ตามนโยบายที่เคยแถลงกับประชาชนไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาเพราะทุ่มเทผลักดันขับเคลื่อนทุกรูปแบบมาโดยตลอด เพื่อให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของนโยบายปลูกกัญชาเสรี แต่ไม่ได้หมายถึงเป็นการขู่รัฐบาล หรือเป็นการต่อรองกับรัฐบาล รวมถึงไม่ได้มีความขัดแย้งเรื่องการเมือง แต่เป็นการพูดให้เห็นถึงความตั้งใจในการผลักดันให้เข้าสู่กระบวนการแก้กฎหมายให้สมบูรณ์แบบ ไม่ได้หมายถึงการเสนอ พ.ร.บ.กัญชงกัญชา เพราะตนเชื่อว่าการขับเคลื่อนปลดล็อกกัญชาของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เดินหน้ามาไกลแล้ว ไม่ได้เอามาเป็นปัญหาต่อรองทางการเมือง มั่นใจว่าจะมีการนำเข้าสภาผู้แทน และพิจารณาผ่านไปด้วยดี ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย หลังมีการประกาศกฎกระทรวงออกมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก็เหลือเวลา 120 วัน จะมีผลบังคับใช้ จึงต้องการทำความเข้าใจ ไม่ให้ขยายเป็นปมขัดแย้งทางการเมือง
ครูแก้วกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนมีความมั่นใจว่า นโยบายปลูกกัญชาเสรี เมื่อกฎหมายทุกอย่างสมบูรณ์ ประชาน รวมถึงวิสาหกิจชุมชน จะได้รับประโยชน์มากที่สุด และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในอนาคต รวมถึงพื้นที่ชายแดนอีสานในนั้นก็มี จ.นครพนมรวมอยู่ด้วย จะเป็นเมืองแห่งกัญชาคุณภาพ เป็นฐานการผลิตกัญชาขึ้นชื่อของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันได้เดินหน้าขับเคลื่อนวางแนวทางร่วมกับทุกภาคส่วน มีความพร้อมทุกด้าน ในการส่งเสริมการปลูกกัญชาจึงขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่า พรรคภูมิใจไทยจะดำเนินการตามที่เคยหาเสียงไว้อย่างแน่นอน
