ปราจีนบุรี – ชาวบ้านร้องเรียนให้ตรวจสอบพระกับสีกาในป่าท้ายหมู่บ้านเหล่าหลวง ม.16 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สั่งให้กลับไปจำพรรษาที่วัดต้นสังกัดทันที
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่า พบเห็นพระธุดงค์รูปหนึ่งมีผู้หญิงแวะเวียนมาหาในป่าที่อยู่ติดกับป่าช้าเก่าท้ายหมู่บ้านเหล่าหลวง ม.16 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงประสาน พระครูบดินทร์เดชาภิวัฒน์ เจ้าคณะตำบลเมืองเก่าเขต 2 เจ้าอาวาสวัดหลวงบดินทร์เดชา และนางมันลิกา หงษ์มัง กำนันตำบลเมืองเก่าและผู้ใหญ่บ้าน โดยพลเมืองดีที่แจ้งข้อมูลดังกล่าว ระบุว่า พบเห็นพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง มาอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้านแล้วออกไปบิณฑบาตในตลาด บขส. ขากลับจะมีผู้หญิงตามมาที่วัด ซึ่งผู้หญิงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยากให้ช่วยตรวจสอบด้วย เพราะไม่แน่ใจว่า จะมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงมากแค่ไหน ขณะที่รออยู่ปากทางเข้าที่พัก พบกับลุงกร ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง ชาวบ้านคนหนึ่งที่เคยไปรับไปส่งพระสงฆ์รูปนี้ กล่าวด้วยว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าว เคยพบเห็นที่ตลาด บขส.และมาทราบอีกทีว่า มาอยู่ที่นี่เคยไปรับไปส่งเมื่อเดือนที่แล้ว
ต่อมา พบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้าน ที่มีพฤติกรรมกินเหล้า เมายา เข้ามาวุ่นวาย จึงไม่ได้เข้ามายุ่งด้วย เพราะเกรงว่า จะมีส่วนรู้เห็นหรือมีความผิด ขณะนั้นรับแจ้งว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวกำลังเดินกลับจากบิณฑบาตกลับมาที่พัก จึงให้ลุงกรขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปรับมา เพื่อสอบถาม ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าชื่อ พระกรธวัฒน์ กัณตวโร พระลูกวัดบ้านซ่ง ตำบลย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
โดยพระกรธวัฒน์ กล่าวว่า บวชมา 5 พรรษาแล้ว และมาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่า พระครูบดินทรเดชาฯ กล่าวว่า พระสงฆ์ที่จะออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพียงลำพังได้นั้น จะต้องมีพรรษาที่ 6 ขึ้นไป จึงจะออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพียงลำพังได้ ซึ่งในครั้งนี้ ถือว่า เป็นการทำผิดขั้นตอนของพระสงฆ์ที่จะออกเดินธุดงค์ จึงมีคำสั่งให้พระกรธวัฒน์กลับไปจำพรรษาที่วัดต้นสังกัด ภายในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม พระกรธวัฒน์ ได้ทำหนังสือรับรองว่า จะออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปจำวัดที่บวชให้ ภายในวันที่ 21 ก.พ.65 นี้ ส่วนผู้หญิงที่มาหานั้น ไม่ใช่ใคร เป็นญาติกัน มาขออาหารไปกินแค่นั้น ไม่ใช่คนอื่นแต่อย่างใด
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
