สระแก้ว – ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว ร้องเรียนขบวนการมอดไม้ ร่วมกับเจ้าของลานรับซื้อ ตัดไม้ในพื้นที่ของนิคมสหกรณ์ เหี่ยนไปแล้ว 4 ไร่ เข้าแจ้งความขณะกำลังตัดไม้ แต่ ตร.ไม่กล้าจับกุม อีกฝ่ายอ้างมีเอกสาร ขณะที่นิคมสหกรณ์ยืนยันเป็นที่ดินยังไม่ได้มีการจัดสรร
เมื่อวันที่ 12 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในหมู่บ้านดง หมู่ที่ 12 ต.บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.68 ว่า มีชาวบ้านในหมู่บ้านได้ว่าจ้างคนงานของลานรับซืัอไม้แห่งหนี่งในพื้นที่ เข้าไปตัดไม้ในป่าของนิคมสหกรณ์กบินทร์บุรี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว ในปัจจุบัน โดยอ้างสิทธิครอบครองตามใบจอง ทั้งที่พื้นที่ป่าแห่งนี้ เป็นป่าสมบูรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ และทางนิคมสหกรณ์กบินทร์บุรี ซึ่งดูแลอยู่ในปัจจุบันยืนยันว่า ยังไม่ได้จัดสรรให้ผู้ใดเข้าไปทำกิน และที่สำคัญบุคคลที่เข้าไปตัดไม้ ก็ไม่ใช่สมาชิกของนิคมฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ดุนา ผู้ใหญ่บ้านบ้านนา กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพื้นที่ที่มีคนเข้าไปต้ดไม้เป็นพื้นที่ของนิคมฯ ผู้ที่อ้างสิทธิครอบครองได้เข้าไปตัดไม้ทำลายป่าหลายครั้งหลายหน จนป่าถูกทำลายไปแล้วหลายไร่ ตนเองพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของนิคมสหกรณ์เคยไปชี้แจงให้หยุดุการกระทำ ทุกครั้งที่มีการตัดไม้ แต่ไม่ได้ผล ผู้กระทำยังคงอ้างแต่สิทธิครอบครองตามใบจอง แม้ว่าหลายฝ่าย รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ของนิคมสหกรณ์ จะชึ้แจงให้ทราบทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก็ตาม
ผู้ใหญ่สมศักดิ์ กล่าวอีกว่าครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บุคคลดังกล่าวได้ว่าจ้างคนงานของลานรับซื้อไม้จำนวนหลายคน เข้าไปตัดไม้ พร้อมกับนำรถบรรทุกไม้ รถคีบท่อนไม้ ของลานไม้ เขาไปตัดไม้อีก จึงได้มีการแจ้งความ นำกำลังตำรวจของ สภ.เขาสิงโต จำนวนนับสิบกว่านาย รวมทั้งชาวบ้าน, อบต.ของหมู่บ้าน ,ตัวแทนจากนิคมสหกรณ์, ตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงไปยังพื้นที่ ที่กำลังตัดไม้ ทำลายป่าอยู่ เพื่อให้ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดไปดำเนินคดีและสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่ตำรวจไม่กล้าจับกุม ทั้ง ๆ ที่เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า หากตำรวจทำเช่นนี้ อีกไม่นานป่าไม้คงหมดไปจากประเทศแน่นอน ดังนั้น จึงอยากตีแผ่ให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบเรื่องราวและข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง
—————————
ข่าวโดย/สมยศ สินธุพันธ์ ทีมข่าวสระแก้ว
