ทหารเพิ่มกำลังตั้งจุดตรวจเข้มทางไปพื้นที่จีนสีเทา เห็นด้วยที่ผู้นำกะเหรี่ยงประชุมผู้ประกอบการชาวจีนออกมาตรการไม่ให้ทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์เบอร์
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 พันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก ได้สั่งการให้ทหารไปเสริมกำลังตั้งจุดตรวจ 24 ชั่วโมง บริเวณเส้นทางระหว่างบ้านแม่โกนเกน ไปยังบ้านห้วยมหาวงศ์ ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมาย มีการเพ่งเล็งเฝ้าระวังอยู่ จากเดิมไม่มีจุดตรวจ ทั้งนี้เพื่อเข้มงวดกวดขันการเข้าออกชายแดนของบุคคล การดูแลความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนรวมทั้งตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการเดินทางข้ามไปฝั่งเมียนมาในพื้นที่ ที่มีอาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวง การค้ามนุษย์

พันเอกณัฐกร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงในเมียนมา มีการประชุมกับผู้ประกอบการชาวจีนที่ไปลงทุนในฝั่งเมียนมา เพื่อห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการชาวจีนมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่นปล่อยให้มีอาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงต่างๆ และการค้ามนุษย์ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นฝ่ายไทยฝ่ายเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ต้องมีการร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้ง 2 ฝั่ง

พันเอกณัฐกร กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าฝ่ายผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ. และดีเคบีเอ.ก็เห็นด้วย โดยพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เชื่อว่าไม่เห็นด้วยในการกระทำผิดดังกล่าว และในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ให้กลุ่มคนจีนเข้าไปเช่าพื้นที่ สามารถพูดคุยกับผู้ประกอบการชาวจีนได้ แต่ไม่ได้ให้ยกเลิก ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่การปรับเปลี่ยนไม่ให้ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายมาเป็นทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน และสังคมนานาชาติด้วย และการดำเนินการธุรกิจก็จะดำเนินการต่อไปได้

“ สิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้ เราได้รับความร่วมมือจากฝ่ายชนกลุ่มน้อย และฝ่ายเมียนมาก็เข้าใจ ว่า การที่ปล่อยให้มีการกระทำผิดกฎหมายอยู่นั้น มันไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในสังคมยุคปัจจุบัน ฉะนั้นการประชุมกันระหว่างฝ่ายนักลงทุนจีน กับฝ่ายผู้นำกะเหรี่ยงนั้น ถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ” พันเอกณัฐกรกล่าว
สำหรับที่ตั้งจุดตรวจที่ตั้งขึ้นใหม่นั้น เป็นพื้นที่ใกล้กับกรณี มีการพาเด็กหญิง อายุ 10 ขวบ จากบ้านผาลาดตำบลมหาวัน อ.แม่สอดไปฝั่งเมียนมาก่อนหน้านี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: