กรุงเทพฯ – ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ มั่นใจ พรรคกัญชาถูกยุบแน่! หลักฐานซื้อเสียงสระแก้วแน่น เข้าข่ายทุจริตเลือกตั้ง พร้อมชวนคนไทยจับผิดซื้อเสียง ใครจ่าย อัดฉีดเพิ่มเป็น 10 เท่า ด่ายับ ‘นักการเมืองยิ่งกว่าคนขายบริการ เพราะขายชาติ’
วันที่ 27 เมษายน 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจ และอดีตนักการเมืองชื่อดัง นำหลักฐานการโอนเงิน และการพุดคุยโต้ตอบกันระหว่าง ผู้สมัคร ส.ส.หญิง เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.สระแก้ว ของพรรคการเมืองใหญ่ กับชาวบ้านที่เป็นผู้รับเงิน โดยอ้างว่าเป็นหลักฐานการซื้อเสียง ยื่นให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อตรวจสอบและเอาผิด
ซึ่งหลักฐานทุกอย่างที่นายชูวิทย์นำมานั้น ชี้ชัดว่าเป็นการจ่ายเงินให้ชาวบ้านเพื่อซื้อเสียงเลือกตั้ง จากผู้สมัคร ส.ส.หญิงคนหนึ่ง ในราคา 3,000 บาท โดยโอนจากบัญชีธนาคารกสิกรไทย ไปยังธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 ที่ผ่านมา รวมถึงหลักฐานการสนทนากันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ที่ระบุว่า “เอาไว้ใช้นะคะ กราบงาม ๆ ในน้ำใจของน้องสาว”
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การเมืองไทยราคาถูกแค่ 3,000 บาทก็สามารถซื้อได้ ไหนว่าจะปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น โชคดีที่บุคคลที่ได้รับการโอนเงินนั้นเป็นครูสูงอายุ ที่อยากเห็นการเมืองสะอาด จึงเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างให้ พร้อมข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษรนำมายื่นให้ กกต.ว่า “เงินที่ได้รับโอนนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงคะแนนให้กับผู้จ่ายเงิน ไม่ได้เป็นการชำระหนี้แต่อย่างใด” อย่าหาว่าตนเองจัดฉาก เพราะมีสลิปโอนเงินชัดเจน แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อผู้รับ เนื่องจากต้องเป็นพยานให้ กกต.
นอกจากที่ จ.สระแก้วแล้ว นายชูวิทย์ ยังยื่นหลักฐานเป็นบทสนทนาผ่านไลน์ ระหว่างผู้สมัคร ส.ส. จ.ลำพูน เขต 2 กับรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ซึ่งมีข้อความขอเพิ่มเงินสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้ง จากที่จัดสรรให้ 5 หมื่นบาทต่อเขต เป็น 3-5 ล้านบาทต่อเขต หากยังนิ่งและไร้คำตอบ จะยุติการหาเสียง พร้อมปลดป้ายหาเสียง ซึ่งบทสนทนาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเป็นการใช้เงินที่มากกว่ากฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครใช้เงินในการหาเสียงได้เพียงเขตละ 1.9 ล้านบาท แล้วทำไมถึงขอสูงถึง 3-5 ล้านบาท หากไม่ใช่จะนำไปซื้อเสียง แล้วคนที่คุยด้วยคือรองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนจะมีข้อความตอบกลับว่าโอนเงินให้หรือไม่นั้น ขอให้ข้อมูลกับ กกต.ในภายหลัง แต่ กกต.ควรจะพิจารณาเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนและรวดเร็ว
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า แทบทุกพรรคการเมืองใหญ่ ได้รับรายงานมาว่ามีการซื้อเสียงกันทุกภาค ขณะนี้มีอยู่ในมือมากกว่า 20 แห่ง โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เป็นผู้ล่ารายชื่อ เก็บบัตรประชาชน ในราคาตั้งแต่หัวละ 500-4,000 บาท ไม่โทษชาวบ้านเพราะอยากได้เงินเป็นธรรมดา แต่จะขอให้พี่น้องคนไทยทุกคน มาร่วมกันจับผิดการทุจริตเลือกตั้งครั้งนี้ หากใครให้เงินเท่าไหร่ ตนเองพร้อมจะให้เพิ่มทันที 10 เท่า ใครให้ 2,000 บาท มารับ 20,000 บาท ใครให้ 3,000 บาท มารับ 30,000 บาท และไม่ต้องกลัวอิทธิพล จะให้การปกป้องคุ้มครองเอง
“สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มันกำลังสะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังจะล้มละลาย เพราะประเทศไทยราคาถูก ส.ส.ไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่เอาเงินมาจากนายทุน ไปจ่ายให้กับชาวบ้าน ส.ส.100 คน จ่ายแค่ 3,000 ล้าน ก็ได้เป็น มันน้อยมากสำหรับเงินของนายทุนการเมือง ประเทศชาติถึงเน่าแบบนี้ ดูหน้านักการเมืองแต่ละคน เป็นพวกหิวอำนาจ อยากที่จะเข้าไปเป็น ส.ส. อาชีพหมอนวดที่ผมเคยทำยังมีศักดิ์ศรีมากกว่า เพราะเขาขายแค่ตัว ไม่ได้ขายประเทศ แต่พวกนี้ขายประเทศ เพราะเอาเงินมาจ่ายให้กับประชาชน พอเข้าไปแล้วก็ไปเอาคืน” นายชูวิทย์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: